ในวันที่ นายวราวุธ ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา ถูกฝากความหวัง ในการเป็นหัวหน้านำทัพ พาพรรคชาติไทยพัฒนาไปสู่ฝั่งฝัน สิ่งหนึ่งถูกตั้งคำถามบ่อยครั้งว่า อยากเป็นนายกรัฐมนตรี เหมือนคุณพ่อบรรหาร ศิลปปาอาชา หรือไม่
ซึ่งเรื่องนี้ นายวารวุธ ตอบได้น่าสนใจ ว่าการเป็นนายกรัฐมนตรี ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ทุกอย่างต้องเก่งและเฮงบวกกัน ดวงคนจะไม่ได้เป็น พยายามยังไงก็ไม่ได้เป็น ถึงต้องบอกว่า ต้องเก่งครึ่งหนึ่ง และเฮงครึ่งหนึ่งคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง
เลือกตั้ง 2566 : “ชาติไทยพัฒนา” เสนอชื่อ “วราวุธ” ปาร์ตี้ลิสต์เบอร์ 1
เลือกตั้ง 2566 : จุรินทร์ ยังไม่รู้ ปม จิตภัสร์ โพสต์ตัดพ้อ
ส่วนตัวเองแล้ว การเป็นลูกของนายบรรหารมา จึงทำให้ได้เห็นวิถีทาง ทางการเมืองมาหลายสิ่งหลายอย่าง ได้เห็นในจุดที่สูงสุด และได้เห็นจุดที่ต่ำสุด ในทางการเมืองได้เห็นมาทั้งหมดแล้ว
หากถามวันนี้ ว่าอยากเป็นนายกรัฐมนตรีไหม นายวราวุธ เผยว่า เราไม่มีความใฝ่ฝันที่จะเห็น แต่!!!! ถ้าถึงเวลา แล้วจังหวะจะต้องเข้าไปรับหน้าที่ ทำงานในฐานะนั้น อย่างวันนี้สมาชิกพี่น้อง ของพรรคชาติไทยพัฒนา ได้ให้ความไว้วางใจ และให้เป็นแคนดิเดตนายกฯ ของพรรค "ถ้าถึงเวลาที่ต้องทำงาน ผมก็ไม่กลัวใคร"
เมื่อวันนี้พ่อบรรหารไม่อยู่ ก็อาจมีความเชื่อมั่น หรือว่าความหนักแน่ทางการเมือง ก็ไม่อาจจะส่งต่อได้ เพราะถือเป็นเรื่องปกติ ที่มีทั้งคนออกและคนเข้า หลายคนยังไม่มีความเชื่อมั่น มีการย้ายเข้า ย้ายออกเป็นเรื่องปกติ
เอาลูกนายบรรหารขึ้นมา ไม่ได้แปลว่าคุณจะทำได้เหมือนนายบรรหาร ดังนั้นเวลาจะเป็นเรื่องพิสูจน์ ว่าจากนี้ไปเส้นทางของพรรคชาติไทยพัฒนา จากขนาดกลางสมัยนายบรรหาร มาถึงพี่สาวของผม (กาญจนา ศิลปอาชา) ก็สามารถรักษาไม่ให้พรรคแตกได้ แล้วในวันนี้พอมาถึงวารวุธ เราจะไต่จากพรรคขนาดเล็ก ขึ้นไปเป็นขนาดกลาง และท้ายที่สุดเป็นขนาดใหญ่ได้หรือไม่อันนี้ เวลาเท่านั้นจะเป็นเครื่องพิสูจน์"
วันนี้อาจถูกเปรียนเทียบ ว่าจะได้เหมือนคุณพ่อบรรหารหรือไม่ นายวราวุธ ระบุว่า ไม่เคยกดดันตัวเองเลยแม้แต่น้อย เพราะถูกกดดันมาตั้งแต่เกิด ตั้งแต่วันที่ได้เกิดมาเป็นลูกชายเพียงคนเดียวของคนที่ชื่อ "บรรหาร" ถือว่าชินแล้วกับเรื่องแบบนี้ เพียงแต่ว่ามั่นใจได้ว่า ทุกก้าวทางเดินจากนี้ไป จะทำอย่างเต็มที่ และจะทำแบบ 200 % แบบทุกอย่างที่มี ดังนั้นจะทำให้ชาติไทยพัฒนา เติบใหญ่กว่านี้ หรือไม่ได้ ก็จะไม่เสียใจ เพราะคิดว่าเราทำเต็มที่แล้ว แล้วหากชะตาฟ้าละขิต ทำให้เรากลับขึ้นไปเป็นพรรคขนาดกลาง หรือ ในอนาคต 5 – 10 ปี จากนี้ จะเป็นพรรคขนาดใหญ่ได้ ก็คงต้องคอยติดตาม แต่วันนี้ขอให้คำมั่นการสมาชิกพรรคชาติไทยพัฒนา และผู้บริหารพรรค ได้ว่า 1 สมอง กับ 2 มือ ที่มีอยู่ จะทุ่มเททุกอย่างที่มี ดูแลรักษาบ้านหลังนี้ จะไม่ให้คนพูดว่าทำได้ดีสมัยพ่อ เจ๊งสมัยลูก จะไม่เกิดขึ้นกับคนที่ชื่อ "วราวุธ" อย่างแน่นอน