นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวเปิดใจในรายการ “เปิดปากกับภาคภูมิ” ช่องไทยรัฐทีวี ตอนหนึ่งว่า ยืนยันตนยังสติดีและกำลังใจดี พรุ่งนี้ก็จะเดินหน้าต่อในสภาตามปกติ ดดยจะมีการอภิปรายกัน 6 ชม. ตนจะใช้โอกาสนั้นแถลงวิสัยทัศน์และตอบคำถามทั้ง ส.ส. และ ส.ว. ทั้งนี้เรื่องที่เกิดขึ้นไม่ตกใจ ซึ่งเราก็ต้องนิ่งและบริหารจัดการไป ซึ่งเรื่องนี้ในการเมืองไทยเกิดขึ้นมาโดยตลอด โดยเรื่องของตนอาจจะทำลายสถิติ เพราะกกต.ใช้เวลาพิจารณาเพียง 32 วัน ขณะที่คดีอื่นๆมีการใช้เวลาพิจารณา 70-380 วัน
ทั้งนี้ กกต.ไม่เคยเรียกตนเข้าไปชี้แจง และทุกวันนี้ยังไม่รู้ว่า กกต.สงสัยตนในประเด็นอะไร ทั้งนี้ยืนยันว่าตนไม่มีทางได้ประโยชน์ทางการเมืองผ่านสื่อที่ปิดไปแล้วเมื่อ 17 ปีที่ผ่านมา มีใครเคยดูตนดีเบตผ่านไอทีวีบ้าง ซึ่งไม่มี ทั้งนี้ประเด็นพิจารณากฎหมายในคดีหุ้นสื่อก่อนหน้านี้ 60-70 คดี ซึง่ตนเข้าใจว่าคืออะไร แต่ในขณะเดียวกันต้งเรียกสามัญสำนึกและคืนความปกติให้การเมืองบ้าง เพราะเจตนารมณ์ของกฎหมายไม่ต้องการให้นักการเมืองเข้าสู่อำนาจโดยการใช้สื่อ แต่สื่อที่ปิดไปแล้วเมื่อ 17 ปีที่ผ่านมาไม่มีแม้สัมปทาน ไม่มีแม้รายได้จากสื่อ และตนไม่มีทางได้ประโยชน์อะไร ทั้งนี้ตนเป็นนักการเมืองพร้อมให้ตรวจสอบ แต่ในขณะเดียวกันตนไม่รู้ว่าประเด็นไหนที่ กกต.สงสัย และตนก็ไม่ได้ชี้แจง และมีการใช้เวลาเพียง 32 วัน วึ่งก็น่าสงสัยอยู่ ทั้งนี้ตั้งแต่ กกต.รับเรื่องจนถึงวันนี้ ยังไม่มีการแจ้งมาที่ตน
เมื่อถามว่าได้ลองประเมินดูหรือไม่ว่าทำไมถึงมีมติออกมาวันนี้ก่อนโหวตเลือกนายก นายพิธา กล่าวว่า เป็นเรื่องที่ตนก็คงสงสัยไปพร้อมกับประชาชน ว่าเวลาที่เกิดขึ้นสั้น ตนไม่มีโอกาสชี้แจง และเกิดขึ้น 1 วันก่อนโหวตนายกฯ ทั้งที่ตนเป็น ส.ส.มา 4 ปี และในปี 2562 ตนก็เคยปรึกษาทั้ง ป.ป.ช. และ กกต. ในเรื่องนี้ก็บอกว่าไม่มีปัญหา แต่อีก 1 วันตนจะเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีที่รัฐสภาจะลงมติ ก็เป็นเหตุให้ช่วยไม่ได้ที่จะชวนให้สงสัย และคิดว่า กกต.จะต้องชี้แจง
กกต. ยืนยันเป็นทางการ! ชงศาลรธน.วินิจฉัยสมาชิกภาพ “พิธา”
“ด้อมส้มโคราช” นัดชุมนุมลานย่าโม คัดค้าน มติกกต. ชงศาลรธน.ฟัน “พิธา”
เปิดเบื้องหลังคำพูดจาก เว็บสล็อตเว็บตรง! มติ กกต. 4:1 ชงศาลรธน.วินิจฉัยปมคุณสมบัติ “พิธา”
เมื่อถามว่าวันโหวตเลือกนายกฯจะเกิดความคลุมเครือหรือไม่ นายพิธา กล่าวว่า ก็เป็นหนึ่งในสถานการณ์ที่เราประเมินไว้ แต่ก็ประมาทไม่ได้ เพราะสถานการณ์งวดเข้ามาเรื่อยๆ และหลายสถานการณ์เกิดขึ้นพร้อมกัน มีทั้งการขอเลื่อนโหวตนายกฯ หรือการตีความข้อบังคับบอกว่าโหวตนายกฯได้ครั้งเดียว
คิดว่าทั้งหมดนี้คิดว่ามีความพยายามที่จะสกัดกั้น ไม่ใช่สกัดกั้นผม แต่สกัดกั้นรัฐบาลเสียงข้องมากของพี่น้องประชาชน ที่จะเข้าสู่การบริหารประเทศในหลายรูปแบบ หากไม่มีเรื่องไอทีวีก็จะมีเรื่องอื่นเข้ามา ซึ่งต้องยอมรับว่าเป็นเรื่องปกติของการเข้าสู่อำนาจของบ้านเมืองเรา เพราะย้อนไป 20 ปีก็ไม่มีใครที่ไม่มีปัญหา วิธีมองของผมจึงมองว่าอะไรที่ยิ่งใหญ่ อะไรที่สำคัญต้องมีเรื่องยากเสมอ จึงทำให้ผมมีกำลังใจ มีกำลังวังชา มีความหวัง มีสติพอที่จะแก้ไปทีละเรื่อง จนกระทั่งถึงความฝันของผมและประชาชนร่วมกัน
เมื่อถามว่าหากพรุ่งนี้ในการโหวตเลือกนายกฯ มีคนบอกว่าจะลงคะแนนได้อย่างไรเพราะยังคลุมเครือ นายพิธา กล่าวว่า ตนก็จะใช้คำตอบของกลุ่มเดียวกับคนที่ตั้งคำถามแบบนี้ ว่าไม่ว่าจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับคดีอะไร หรือเรื่องเกี่ยวกับนโยบายอะไร มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเขาพิจารณาอยู่แล้ว ไม่ได้เป็นหน้าที่ของวุฒิสภา วุฒิสภาก็เป็นนักการเมืองที่ต้องยืนอยู่ข้างประชาชนเหมือนกัน แล้วต้องมีหลักการในการเลือก หากปี 2562 เลือกคนที่รวมเสียงข้างมากได้ ครั้งนี้ตนก็รวมเสียงข้างมากได้ 312 เสียง หากยึดตามหลักการนั้นคิดว่าไม่มีปัญหาอะไร ทั้งนี้ตนเป็นแคนดิเดตนายกฯ ยังไม่ได้เป็นนายกฯ จะสั่งตนหยุดปฏิบัติหน้าที่ในการเป็นแคนดิเดตนายกฯได้อย่างไร ซึ่งก็ต้องรอดูว่าศาลรัฐธรรมนูญจะตัดสินออกมาเป็นอย่างไร
กระบวนการทั้งหมดยังน่าสงสัยอยู่ ผมรู้สึกว่ายังไม่ได้รับความเป็นธรรม ตรงที่ว่ายังไม่ได้ชี้แจงอะไรเลย และความผิดปกติที่สังคมเห็นชัดก็ยังไม่มีการชี้แจงตรงนี้เลย ซึ่งไม่ใช่แค่ผม แต่เป็นเรื่องของหลักการและกระบวงนการของทั้งประเทศ ที่ต่างชาติจับตาดูอยู่ ซึ่งประชาชนไม่ต้องเป็นห่วงผล แต่ควรห่วงบ้านเมือง เรื่องวิธีการบริหารจัดการของประเทศ ซึ่งเรื่องนี่น่ากังวลกว่าเยอะ