จากผลชันสูตรศพของ น.ส.พราวรวี หรือโยโกะ พริตตี้ชื่อดัง ที่ระบุชัดว่าเสียชีวิตเพราะพิษสารไซยาไนด์ แต่ผู้เป็นแม่และเพื่อนผู้ตายไม่เชื่อว่าเป็นการฆ่าตัวตาย เหมือนเป็นการจัดฉาก สรุปแล้วตามหลักทางการแพทย์และอาชญาวิทยา โยโกะ มีความเสี่ยงฆ่าตัวตายหรือไม่ วันนี้ทีมข่าวพีพีทีวีไปสัมภาษณ์ “อ.ตฤณห์” นักอาชญาวิทยา อาจารย์วิเคราะห์พฤติกรรมได้น่าสนใจ ซึ่งอาจารย์บอกว่าพฤติกรรมของโยโกะ มีความเสี่ยงฆ่าตัวตายจากคนปกติถึง 20 เท่า แต่ไทม์ไลน์ต่างๆ ก็เหมือนมีคนทำให้ตาย
เปิดใจ! แม่น้องโยโกะ หลังพบไซยาไนด์ในเลือด จี้ ตร.สอบแฟนหนุ่ม
นายตฤณห์ โพธิ์รักษา นักอาชญาวิทยาเชิงพฤติกรรมและจิตวิทยาอาชญากร มหาวิทยาลัยมหิดล ได้วิเคราะห์พฤติกรรมของ น.ส.พราวรวี สหัสธัชพงศ์ หรือ “โยโกะ” พริตตี้ชื่อดังก่อนเสียชีวิตตามที่นางธัญพัฒน์ สหัสธัชพงศ์ ผู้เป็นแม่ติดใจสาเหตุการเสียชีวิต โดยแม่บอกว่าลูกสาวไม่ได้ฆ่าตัวตายแน่นอน ถึงจะป่วยโรคซึมเศร้า แต่ลูกสาวเป็นคนเข้มแข็ง หัวใจแกร่ง ก่อนตายยังพูดคุยถึงเรื่องอนาคตจะให้ดูแลกิจการต่อจากแม่ ยังยิ้มร่าเริงกับคนในครอบครัวปกติ แม่เลยตั้งข้อสงสัยว่าลูกสาวถูกจัดฉากให้ดูเหมือนฆ่าตัวตายหรือไม่
ประเด็นนี้ อ.ตฤณห์ บอกว่าข้อมูลที่ได้มา ณ ตอนนี้มีความเป็นไปได้ 2 อย่าง 1 คือฆ่าตัวตาย เพราะโยโกะเข้ารับการรักษาด้วยภาวะซึมเศร้าเมื่อเดือน พ.ย. ปี 2565 ถึงวันนี้ก็ปีนิดๆ เป็นระยะเวลาสั้นมากๆ ถือได้ว่าอยู่ใน "ภาวะซึมเศร้า" ยังไม่ถึงขั้นเป็น “โรคซึมเศร้า” แต่ "ภาวะซึมเศร้า" นี้แหละน่ากลัวกว่าโรคซึมเศร้า เพราะคนที่ตกอยู่ภาวะซึมเศร้านี้มีโอกาสฆ่าตัวตายสูงถึง 20 เท่าของคนปกติ และมากกว่าคนที่ป่วยโรคซึมเศร้าด้วยซ้ำ และความเป็นไปได้ที่ 2 คืออาจมีคนทำให้ตาย เพราะเหตุการณ์ต่างๆ ตามข้อมูลของตำรวจ และแม่ผู้ตายมีข้อให้ชวนสงสัยมากมาย ที่ต้องฝากให้ตำรวจหาคำตอบ
ขณะที่ ตำรวจชุดคลี่คลายคดีก็ยืนยันข้อมูลตามหลักวิชาศาสตร์ว่าผู้ตายดื่มยาพิษเข้าไป หลังจากเกิดอาการน้อยใจเพื่อนชายที่มีครอบครัวอยู่แล้ว แล้วครอบครัวโทรศัพท์มาตาม ก่อนเสียชีวิตโยโกะได้พิมพ์ข้อความในโน๊ตสั่งลาเพื่อนชาย ทำนองว่า “ให้ไปใช้ชีวิตอย่างปกติ” ทีมข่าวสอบถาม อ.ตฤณห์ว่าถ้าหากป่วยภาวะซึมเศร้าอยู่แล้วประกอบกับเจอสถานการณ์แบบนี้มีความเสี่ยงฆ่าตัวตายเพิ่มไหม อาการแบบไหนต้องเฝ้าระวัง อ.ตฤณห์ บอกว่าประเด็นนี้ต้องไปดูข้อมูลว่าผู้ตายเอาสารไซยาไนด์เข้าร่างกายด้วยวิธีใด หรือมีใครเอาให้ดื่ม ซึ่งวิทยาศาสตร์สามารถตอบได้ว่าเข้าได้ 3 วิธี คือ 1.สัมผัส 2.รับประทาน 3.สูดดม แต่ต้องไปไล่ดูว่าสารพิษเข้าไปตอนช่วงเวลาไหน เพราะสารไซยาไนด์จะหายไปได้ใน 24 ชั่วโมงถึง 79 เปอร์เซ็น หมายความว่าผู้ตายอาจได้รับไซยาไนด์ปริมาณมากกว่าที่ตรวจเจอคือ 1.26 ไมโครกรัมก็เป็นได้ แต่ถึงอย่างไรปริมาณแค่ 1 ไมโครกรัมก็ทำให้เสียชีวิตได้เลยคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง
ส่วนคำถามที่ว่าถ้ามีภาวะซึมเศร้าอยู่แล้วยิ่งมีสิ่งกระตุ้นจะเพิ่มโอกาสการฆ่าตัวตายหรือไม่ อ.ตฤณห์ บอกว่ามีผลแน่นอน เพราะโดยธรรมชาติของภาวะซึมเศร้าก็มีความเครียดจากภาวะต่างๆ สะสมอยู่ๆ แล้ว กรณีของโยโกะอาจจะเข้าข่ายภาวะซึมเศร้าซ่อนเร้นด้วยก็ได้ เพราะแม่โยโกะบอกว่าลูกยิ้มแย้ม ร่าเริงพูดปกติกับครอบครัว แต่ความจริงเขากำลังเก็บซ้อนความเครียด ความทุกข์ใจไว้คนเดียว ไม่อยากให้ใครรับรู้ เพราะเขาเป็นคนที่ทำอะไรต้องดี ต้องสมบูรณ์ ย้ำคิดย้ำทำให้ดีที่สุด เลยต้องเก็บอาการ ซึ่งคนอื่นจะมองไม่ออกเลย แม้แต่คนในครอบครัวเองก็มองไม่ออกถ้าไม่ใกล้ชิดและสังเกตจริงๆ จะมองไม่ออก ต้องย้อนคำถามกลับไปที่แม่ว่าลูกเคยมาเล่าอะไรให้ฟังไหม ลูกเคยมาปรับทุกข์ไหมหรือไม่ปรับทุกข์กับเพื่อนคนไหนไหม
นอกจากข้อสงสัยของแม่แล้ว ทางเพื่อนของโยโกะ ก็ต้องข้อสังสัยหลายประเด็น โดยได้โพสต์เฟซบุ๊กชื่อบัญชีของโยโกะเองระบุข้อความว่า “ไซยาไนด์ ไม่ได้หามาได้ง่ายๆ ใครซื้อขายตอนคดีแอม ไซยาไนด์ ก็ยังสืบหาได้ ดังนั้นเชื่อว่าตำรวจต้องสืบหาต้นตอของไซยาไนด์ในคดีนี้ได้เช่นกัน แม้ทุกอย่างจะดูแปลก ดูมีลับลมคมใน วงจรปิดเหมือนถูกตัดหายไปหลายวินาที ประตูกระจกด้านหลังห้องก็ไม่ได้ล็อก ใครๆ ก็เปิดได้ แต่คนดีๆ ที่ไหนจะเดินเข้ามาจากประตูด้านหลัง แล้วคนดีๆ ที่ไหนจะเปิดประตูห้องคนอื่น แล้วรู้ได้ยังไงว่าเปิดได้ เพราะทุกห้องก็ล็อกกันทั้งนั้น”
ประเด็นสารไซยาไนด์ อ.ตฤณห์ มองว่าเป็นเรื่องที่ตำรวจต้องขยายผลต่อเพราะมันสำคัญมากๆ มันจะรู้ได้ว่าสารไซยาไนด์มาจากไหน ใครเป็นคนซื้อตอนไหน จะได้ปิดช่องทางการเข้าถึงสารอันตรายของประชาชน แต่ก็มีคำถามนะว่า ตำรวจเพิ่งกวาดล้างหลังเกิดคดี "แอม ไซยาไนด์" แต่ทำไมถึงยังมีคนครอบครองอยู่
ในทางการแพทย์ อ.ตฤณห์ อธิบายได้ชัดเจนว่าโยโกะมีความเสี่ยงฆ่าตัวตาย แต่ก็พบข้อพิรุธหลายจุดก็เลยโยนคำถามสำคัญให้กับตำรวจหลายข้อ รอดูพรุ่งนี้ว่าตำรวจจะสามารถตอบคำถาม อ.ตฤณห์ ได้ครบหรือไม่ ถ้าตอบได้ข้อสันนิษฐานเหล่านี้ก็ตกไป ครอบครัวโยโกะก็คงไม่มีคำถาม สามารถเผาศพลูกได้แบบไม่ติดใจแต่ถ้าตอบไม่ได้ตำรวจต้องทำทุกอย่างให้กระจ่างเพราะสังคมจับตาคดีนี้อยู่